รัฐบาลปักกิ่งแสดงความไม่พอใจต่อรายงานของสื่อหลายแห่งในเกาหลีใต้ ที่กล่าวหาว่าจีน “คือต้นเหตุ” ของพายุทราย ซึ่งปกคลุมไปถึงพื้นที่บางส่วนของคาบสมุทรเกาหลี

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อวันที่ 17 มี.ค. ว่า นายจ้าว ลี่เจียน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เกี่ยวกับรายงานโดยสื่อหลายแห่งของเกาหลีใต้ ว่า พายุทรายซึ่งปกคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ทางตะวันตกของประเทศ “ลอยมาจากทะเลทรายที่อยู่ทางเหนือของจีน” ว่า “เป็นการนำเสนอข่าวสารอย่างบิดเบือน” เนื่องจากจีนเป็นเพียง “ทางผ่าน”
 
ขณะที่แม้ในเวลาเดียวกัน รัฐบาลมองโกเลียรายงานความเสียหายที่เกิดขึ้นจากพายุทราย ซึ่งครั้งนี้มีอิทธิพลรุนแรงที่สุดในรอบ 1 ทศวรรษ แต่รัฐบาลปักกิ่งไม่เคยวิพากษ์วิจารณ์ หรือกล่าวหาว่ามองโกเลีย “เป็นต้นเหตุ” เพราะสถานการณ์ที่เกิดขึ้นสะท้อนว่า ประชาคมโลกต้องยกระดับความร่วมมือในแบบพหุภาคี เพื่อจัดการกับความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งทวีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง
 
ถ้อยแถลงดังกล่าวของโฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน เกิดขึ้นหลังสำนักข่าวใหญ่หลายแห่งในเกาหลีใต้ นำโดยสำนักข่าวยอนฮัป เสนอรายงานทั้งในรูปแบบภาษาเกาหลีและภาษาจีน ว่าพายุทรายที่ประชาชนในเกาหลีใต้กำลังเผชิญอยู่นี้ “มาจากทะเลทรายในพื้นที่ทางเหนือ ซึ่งเป็นดินแดนภายใต้อธิปไตยของจีน” หมายถึงเขตปกครองตนเองมองโกเลียใน และจีน “สร้างอิทธิพลที่เป็นพิษ” ต่อสิ่งแวดล้อมของเกาหลีใต้

ด้านกระทรวงการต่างประเทศของเกาหลีใต้ยังไม่มีปฏิกิริยาอย่างเป็นทางการต่อเรื่องที่เกิดขึ้น แต่มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงสิ่งแวดล้อมจีนและเกาหลีใต้หารือกันผ่านระบบวิดีโอคอล ในเวลาเดียวกัน รัฐบาลมองโกเลียรายงานการพบผู้เสียชีวิตจากอิทธิพลของพายุทรายแล้วอย่างน้อย 10 ราย ส่วนประชาชนประมาณ 580 คนในบัญชีรายชื่อผู้สูญหาย ได้รับการค้นหาจนพบแล้ว
 
อนึ่ง มองโกเลียเป็นหนึ่งในประเทศที่เผชิญกับปัญหาด้านระบบนิเวศวิทยาในระดับรุนแรงมากขึ้นอย่างชัดเจน ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยพื้นที่ 70% ในประเทศกลายสภาพเป็นทะเลทราย